ทฤษฎีแนวคิด Genre
ละคร แรงเงา
มุตตา และมุนินทร์ พี่น้องฝาแฝดที่มีนิสัยแตกต่างกันอย่างชิ้นเชิง
มุตตาเป็นคนเรียบร้อยอ่อนต่อโลกแต่เรียนไม่ค่อยเก่ง ส่วนมุนินทร์เป็นคนแกร่ง
เป็นนักกีฬา เรียนเก่งจึงมีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศ
มุตตาพอเรียนจบจึงมาทำงานที่กรุงเทพ มุตตาได้พบรักกับเจนภพ
ซึ่งเจนภพมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว เจนภพหลอกมุตตาว่ากำลังจะย่ากับภรรยา
ด้วยความใสซื่อของมุตตาจึงหลงเชื่อ
เมื่อนพนภา
รู้ว่าสามีมีเมียน้อยจึงตามมาตบตีมุตตาแล่ด่าทอเสียๆหายๆให้เกิดความอับอาย
มุตตาเสียใจมากจึงเดินทางกลับบ้านเกิด และผูกหอตายในที่สุด
เมื่อมุนินทร์รู้ว่ามุตตาเสียชีวิตด้วยสาเหตุที่โดนผู้ชายหลอกและถูกเมียของเจนภพทำล้ายจึงโกษและแค้นมาก
มุนินทร์จึงกลับมาแก้แค้นแทนมุตตาโดยปลอมตัวเป็นมุตตาเพื่อกลับมาแก้แค้น
มุนินทร์กลับมาพร้อมความแค้น เธอมาทวงสิทธิ์แทนมุตตา
โดยหวังจะให้เจนภพและนพนภาเจอแต่ความเสียใจเหมือนกับที่มุตตาได้รับ
แต่สุดท้ายมุนินทร์รู้ว่าการแก้แค้นไม่ใช่ทางออกที่ดีและไม่ทำให้อะไรดีขึ้น
เธอจึงให้อภัยและใช้ชีวิตคู่กับแฟนหนุ่มอย่างมีความมีสุข
ละครเรื่องแรงเงาตรงกับGenre คือเป็นละครเริงรมย์(soap opera)
เป็นละครน้ำเน่านั่นเองเรื่องราวก็สามารถเดาทางได้ถูกคือเกี่ยวกับความรักการแย้งชิงของสามีภรรยา
เมียหลวงและเมียน้อย ซึ่งมีให้เห็นอยู่มากในละครไทย
ละครแนวนี้จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะคนไทยชอบละครแนวนี้และให้ความสนใจเป็นอย่างมากจึงเป็นกระแสเร็วมากๆ
แรงเงาเป็นอีกเรื่องที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
เพราะมีเนื้อหาตรงไปตรงมา รุนแรง มีคำพูดที่แรงโดนใจ ซึ่งทำให้น่าติดตาม
โดยส่วนตัวละครแรงเงา ในความคิดของดิฉัน คือ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีคือการสอนให้รู้ว่าการเป็นภรรยาน้อยทำให้ไม่ได้รับความสุข
ส่วนข้อเสียคือการแก้แค้นไม่มีอะไรดีขึ้น สิ่งที่ดีที่สุดคือการให้อภัย
เราสามารถนำสิ่งที่ได้จากละครนำมาปรับใช้ในชีวิตของเราได้
คือการที่เราทำแต่สิ่งดีๆเราก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ ดังนั้นเราจึงควรคิดดีทำดีเพื่อให้ชีวิตเจอแต่สิ่งที่ดี
ละครมีทั้งแง่บวกและแง่ลบ เหมือนคำพุดที่ว่าดูละครแล้วย้อนดุตัว
เมื่อเราได้สิ่งที่ดีจากละครเราก็สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตของเราได้อย่างถูกและควร
ชีวิตของเราเลือกที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น มุตตา ในแรงเงา
เธอสามารถที่จะเลือกทำในสิ่งที่เหมาะสมได้ แต่เธอกลับเลือกที่จะเป็นเมียน้อย
ผลที่ได้รับจากการเป็นเมียน้อยคือ การไม่ได้รับความสุขพบเจอแต่สิ่งที่ไม่ดี
ผิดกลับมุนินทร์เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ทำไปแล้วไม่ถูกก็รีบปรับและแก้ไขไม่ทำสิ่งนั้น
และสามารถเลือกเดินในเส้นทางที่ถูกที่ควรได้
จึงทำให้ชีวิตของเธอพบเจอแต่สิ่งที่ดีและมีความสุขในที่สุด
ก็เหมือนชีวิตคนเราที่สามารถเลือกที่จะทำเลือกที่จะเป็นในทางที่ดีได้
ดั้งนั้นเมื่อเรารู้แล้วว่าสิ่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดี
เราก็ควรเลือกทำในสิ่งที่ดีเพื่อที่ชีวิตของเราจะได้พบเจอแต่เรื่องที่ดีและก็จะทำให้การใช้ชีวิตของเรามีความสุข
สุดท้ายจึงอยากจะฝากถึงคนในยุคปัจจุบันนี้ว่า
อยากให้คิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร
เมื่อพลาดไปแล้วเราไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้ ก็เหมือนกับมุตตาที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย
ดังนั้นเราควรที่จะไตร่ตรองให้ดีก่อนลงมือทำอะไร เพราะผลสุดท้ายเราก็จะไม่ได้กลับมาเสียใจภายหลัง
การวิจารณ์โดยทฤษฎีการเล่าเรื่อง ละครเรื่อง แรงเงา
โครงเรื่อง (Plot) : ละครเรื่อง แรงเงา
เป็นโครงเรื่องแบบ Classical Design เป็นละครที่ให้มุมมองการใช้ชีวิตครอบครัว ในเรื่องนางเอกมีพี่น้องฝาแฝดเหมือนแต่นิสัยแตกต่างกันมาก
ผู้เป็นน้องเป็นคนที่เลี้ยงง่าย น่ารัก จึงเป็นลูกรักของพ่อกับแม่
ส่วนผู้เป็นพี่มอมแมม ไม่ค่อยเรียบร้อย
จึงเป็นลูกชังแต่ผู้เป็นพี่เป็นคนหัวดีเรียนเก่ง
และเป็นคนขี้เหนียวเก็บเงินได้และอยู่มาวันหนึ่งบ้านเกิดไฟไหม้
ผู้เป็นพี่ได้เอาเงินเก็บจำนวนหนึ่งให้พ่อกับแม่ไปซ่อมบ้านจากนั้นมาผู้เป็นพี่สาวก็ได้เป็นลูกรักแทนน้องสาว
และพี่สาวซึ่งเรียนเก่งมีการเรียนที่ดีและสอบได้ทุนไปเรียนต่างประเทศมีงานที่ดีส่งเงินให้ที่บ้านทำสวนดอกไม้ และน้องสาวเรียนจบก็ได้มาช่วยงานที่บ้านและรองรับอารมณ์ผู้เป็นแม่ ทำให้น้องสาวเป็นสาวชั่งฝัน
อ่อนต่อโลกและฝันที่จะออกจากไร่เพื่อพิสูจน์ตัวเอง และผู้เป็นน้องได้สมัครงานไว้และได้งานที่กรุงเทพและผู้เป็นน้องก็ได้พบกับเจ้านายที่รูปหล่อ อัธยาศัยดี
จึงทำให้ทั้งสองคนทำในสิ่งที่ไม่ควรทำจนเกิดเป็นเรื่องราวขึ้น เมื่อภรรยาของฝ่ายชายรู้ก็ไม่ยอมมาราวีต่างๆ
นาๆ และนี้เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้
ความขัดแย้ง (Conflict) : ความขัดแย้งของเรื่องนี้คือ ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ด้วยกัน
สามีกับภรรยาและสามีมีอีกคนหนึ่งทำให้ภรรยาเกิดความหึงหวง ตามราวีภรรยาน้อยจ้างวานคนมาทำลายให้เกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นจนและทำให้คนดูลุ้นตามๆกันว่าบทสรุปของเรื่องนี้จะจบอย่างไรและพี่สาวของผู้หญิงคนนี้จะกับมาแก้แค้นสามีคู่นี้อย่างไร
ตัวละคร (Character) : ตัวละครของเรื่องนี้ ผบ.เจนพบเป็นตัวละครที่มีบุคลิกกลม เป็นคนที่เจ้าชู้เห็นความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้งไม่นึกถึงครอบครัวเลยจนทำให้เกิดเรื่องราวขึ้น แต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนตัวเองเป็นคนดีรักครอบครัว
นพนภาเป็นภรรยาของเจนภพ เป็นตัวละครที่มีบุคลิกแบน
เป็นคนที่ทำงานเก่งทำให้หน้าที่การงานของสามีเจริญก้าวหน้า นพนภากับเจนพบรักกันมากแต่ก็มีการกระทบกระทั่งกันอยู่บ่อยๆเพราะความเจ้าชู้ของสามี
ส่วนตัวของนพนภาเองเป็นคนหลงตัวเองและชอบข่มสามี
มุนินทร์ฝาแฝดผู้พี่ เป็นตัวละครที่มีบุคลิกกลม
เป็นคนเก่งมีความสามารถทันคนไม่ยอมใครและไม่ให้ใครมาเอารัดเอาเปรียบ เมื่อรู้ว่าน้องสาวตัวเองถูกผู้หลอกให้รักจนฆ่าตัวตาย ตัวเองจึงกับมาเพื่อแก้แค้นให้น้องสาว
มุตตาฝาแฝดผู้น้อง เป็นตัวละครที่มีบุคลิกแบน เป็นสาวที่มีจิตใจดี มองโลกในแง่ดีจนทำให้โดนหลอกง่ายๆ และพอผิดหวังกับความรักก็ฆ่าตัวตาย
วีกิจหลายชายของเจนภพ เป็นตัวละครที่มีบุคลิกแบน เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี จิตใจดี
และหลงรักมุตตาและได้ตามจีบมุตตาพอมุตตาไม่ตกลง
วีกิจเองก็ยังเป็นเพื่อนของมุตตาและหวังดีกับมุตตาเสมอมา
รัชนก เป็นตัวละครที่มีบุคลิกแบน
และเป็นอีกตัวละครหนึ่งที่มาสร้างสีสันในละครเรื่องนี้
รัชนกเป็นคนที่น้องสาวของนพนภาจ้างมาสืบเรื่องของเจนภพ รัชนกแกล้งมาทำดีกับมุตตาแต่ที่จริงแล้วประสงค์ร้าย
ข้างนอกเป็นคนหน้ารักแต่จิตใจดำทำให้คนเข้าใจผิดกัน
แก่นเรื่อง(Theme) :
แก่นของเรื่องนี้เป็นละครที่สะท้อนสังคมให้เห็นถึงความจริงการการใช้ชีวิต ครอบครัวที่ไม่มีความอบอุ่น พ่อแม่มีแต่ทำงานจนลืมที่จะดูแลคนในครอบครัวใช้เงินเพื่อซื้อความสุข
ไม่ใช้ความเข้าใจพูดคุยกันเกิดจนทำให้เกิดปัญหาในครอบครัวทำให้ครอบครัวแตกแยก เกิดเป็นปัญหาสังคม
และละครเรื่องนี้ตีแพร่ถึงการใช้ชีวิตคู่ที่อีกคนไม่รู้จักพอ
ทำให้เกิดปัญหาครอบครัวแตกแยก
ฉาก (Setting) :
ฉากในเรื่องนี้เป็นฉากที่อยู่ในเมือง
และหน่วยงานราชการและบ้านที่อยู่อาศัยเป็นบ้านที่หลังใหญ่
เพราะในเรื่องตัวละครเป็นคนมีชื่อเสียงทำงานเป็นข้าราชการ และทำธุรกิจหลายอย่างมีคนนับหน้าถือตา และมีบ้างฉากที่ไปถ่ายทำที่ต่างจังหวัดที่เป็นสวนดอกไม้เพราะนางเอกของเรื่องเป็นเจ้าของไร่ดอกไม้
และฉากที่ทะเลเจนภพและมุตตาไปเที่ยวด้วยและไปเที่ยวกับครอบครัวด้วย
สัญลักษณ์พิเศษ (Symbol) : ผู้สร้างอยากจะสื่อให้เห็นถึงความเจ้าชู้ของตัวละคร และอยากให้ครอบครัวหันมาพูดคุยกัน มีความเข้าใจกันและกัน
มุมมองในการเล่าเรื่อง (Point of view) : มุมมองในการเล่าเรื่องของละครเรื่องนี้ทุกตัวละครเราเรื่องราวของตัวละครออกมาได้ดี
โดยแสดงบทบาทที่ได้รับสื่อออกมาให้ผู้ชมได้ลุ้นและติดตามละครอย่างต่อเนื่อง และนำเสนอเรื่องราวได้ดี ส่งอารมณ์ความรู้สึกเหมือนจริงชักจูงคนดูได้อย่างมาก และแต่ละตัวละครสื่อความหมายออกมาได้
จริงๆแล้วละครเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงสังคมในปัจจุบัน ครอบครัวที่ไม่ใส่ใจซึ่งกันละกัน ไม่มีความเชื่อใจ
และที่สำคัญคือไม่ซื่อสัตต่อกันทำให้มีมือที่สามเข้า และนี้เองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวต้องแตกแยกและมีปัญหาในที่สุด
วิจารณ์โดย
1.52010609 นายภานุพงษ์ พานโน
2.53013428 น.ส.พรศิริ ศรีสวัสฉิม